ทุพพลภาพถาวรหรือชั่วคราว เสียงบ่นจากคนขาหัก


เมื่อปี2018 ผมประสบอุบัติเหตุโดนรถที่เสียหลักข้ามฝากมาชนรถของผมเข้าอย่างจัง รถเละซ่อมไม่ได้ส่วนผมขาข้างซ้ายหัก เข้ารับการผ่าตัดใส่ไทเทเนี่ยมตรงข้อพับเข่านอนติดเตียงอยู่สามเดือน... กว่าจะทิ้งไม้เท้าเดินได้ใช้เวลาเกือบปี จนปัจจุบันขาของผมก็ยังใช้งานได้ไม่ปกติมีข้อจำกัดมากมาย การใช้ชีวิตลำบากกว่าเดิม เพราะเข่างอไม่ได้ตามปกติ แต่ขาของผมถูกตัดสินว่าเป็นแค่ "ทุพพลภาพชั่วคราว" ในวันที่เราสู้คดี ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อให้สังคมได้มองเห็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น อยากให้มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ถูกที่ควรครับ


การจ่ายสินไหมทดแทนให้ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ "ทุพพลภาพชั่วคราว" และ "ทุพลภาพถาวร" มีความแตกต่างกันเป็นอันมาก สิทธิพิเศษทางสังคมที่ได้รับหลังจากนั้นก็แตกต่างกันไป ดังนั้นการให้คำจำกัดความและนิยามของเรื่องนี้จึงมีความจำเป็น เพื่อเป็นบันทัดฐานในการลงความเห็นของแพทย์ ซึ่งเป็นผู้ลงความเห็นชี้ขาดในเรื่องเหล่านี้ด้วยความสะดวกและบริสุทธุิ์ยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย

ขาข้างซ้ายของผมหัก เข้ารับการผ่าตัดใส่ไทเทเนี่ยมตรงข้อพับเข่า จนปัจจุบันขาของผมก็ยังใช้งานได้ไม่ปกติมีข้อจำกัดมากมาย การใช้ชีวิตลำบากกว่าเดิม เข้าห้องน้ำต้องนั่งส้วมแบบโถ ส้วมนั่งยองแบบเก่านั่งไม่ได้เพราะเข่างอได้ไม่สุด เวลาเดินทางไปต่างจังหวัดลำบากสุดๆเพราะส้วมตามบ้านที่เราไปพักยังเป็นส้วมนั่งยองแบบเก่าทั้งนั้น ไม่อยากบรรยายให้ฟังท่าเวลาที่เราใช้ส้วมนั่งยองแบบเก่ามันสมเพชตัวเองครับ

เวลาเดินทางไกลแวะเข้าห้องน้ำตามปั้มส่วนใหญ่จะเป็นส้วมนั่งยองผมต้องเข้าห้องน้ำคนพิการ อายคนทุกทีเวลาเข้าออก คนที่ผ่านไปผ่านมาเขามองหน้าเหมือนด่าในใจเพราะไม่รู้ว่าขาเราดามเหล็กเป็นคนพิการเหมือนกัน(ผมฝึกเดินจนท่าทางเดินเหมือนคนปกติมาก ถ้าไม่สังเกตุแบบเป็นจริงเป็นจังก็มองไม่ออกว่าขาผมดามเหล็ก) ต้องเข้าห้องน้ำคนพิการเพราะอาการที่ติดตัวมาจากอุบัติเหตุ ยังไม่จัดว่าเราเป็นคนพิการอีกหรือครับ
  • ผมเป็นคนชอบเล่นกีฬาออกกำลังกาย วิ่ง กระโดด ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ตีแบ็ท ฯลฯ ต้องบอกลากับสิ่งเหล่านั้นไปตลอดชีวิต 

  • หมอห้ามปีนป่ายถึงแม้จะไม่สูง ถ้าตกลงมาขาหักตรงจุดเดิมอาจรักษาไม่หาย ทำให้เดินไม่ได้ 
  • เวลาไปวัดทำบุญ กราบพระ ไหว้พระ นั่งฟังเทศน์ นั่งพื้นไม่ได้อย่างคนอื่นเขา เพราะงอเข่าได้ไม่สุด
สิ่งที่ผมได้กล่าวมายังไม่ได้จัดเป็นคน "ทุพพลภาพถาวร" อีกหรือ อันนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะครับ ยังมีความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ผมใช้ชีวิตยากขึ้นอีกมาก สิ่งที่เราทำไม่ได้เหมือนเดิมจะค่อยปรากฎขึ้นมาเรื่อยๆ เวลาที่เราไปเจอกับปัญหาเหล่านั้น สมรรถนะร่างกายลดลงทำอะไรได้ไม่เต็มที่เหมือนเก่า มันมาจากผลของอุบัติเหตุที่ถูกลงความเห็นว่าเป็น "ทุพลภาพชั่วคราว" 

ไม่โดนกับตัวเองก็ไม่รู้สึกกันหรอกครับว่าความรู้สึกของผมมันเป็นอย่างไร ถูกตัดสินลงความเห็นว่าเป็น "ทุพพลภาพชั่วคราว" แต่สำหรับผมเองที่ต้องใชัชีวิตอยู่กับความพิการอย่างนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน มันไม่เห็นด้วยกับการตัดสินที่ออกมาในรูปนี้หรอกครับ

บุคคลิกภาพที่เสียไปเป็นสิ่งที่ผมเสียดายที่สุด ท่าทางในการ นั่ง ยืน เดิน มันเปลี่ยนไปหมด เคยเป็นคนปกติครบสามสิบสอง แต่วันนี้ต้องมากลายเป็นคนพิการไปซะแล้ว งานที่ผมทำอยู่ก็ต้องอาศัยรูปร่างหน้าตาและบุคลิกเพราะเป็นงานบันเทิง ทำให้รับงานบางอย่างไม่ได้ เจอผลกระทบเต็มๆ การต่อรองเรื่องสินไหมทดแทนในกรณีนี้เราก็ไม่ได้ รวมค่าชดเชยต่างๆที่จ่ายมามันเทียบไม่ได้แม้เศษเสี้ยวกับสิ่งที่เราได้รับ ไม่ว่าคู่กรณีจะพลาดพลั้งขับรถมาชนเราด้วยสาเหตุใดก็ตามต้องมองถึงความจริงข้อนี้


ทางด้านประกันชดใช้ให้เราแบบมีข้อแม้ตลอด เราต้องออกแรงเรียกร้องสิทธิ์แทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องขาของผมที่มันหักต้องดามไทเทเนี่ยมว่าเป็น "ทุพพลภาพแบบไหน" เพราะทางด้านกฎหมายมันมีรายระเอียดปลีกย่อยมากมายเหลือเกิน สุดท้ายขาที่หักดามไทเทเนี่ยมของผมก็ถูกตัดสินว่าทุพพลภาพชั่วคราว เพราะหมอลงความเห็นแบบครุมเคลือตี อยากให้หมอลงความเห็นให้ชัดเจนไปเลยด้วยคำว่า "ทุพพลภาพถาวร" หรือ "ทุพพลภาพชั่วคราว" 

ถ้าลงคลุมเครือประกันจะตุกติกกับเราทันที ผมเชื่อว่าหมอจะต้องเข้าใจในเรื่องนี้ แต่มันอาจมีอะไรค้ำคอ ผมจึงอยากให้ออกกฎระเบียบมาให้ครอบคลุมเรื่องนี้ จะได้ง่ายต่อการปฎิบัติงานของหมอ กฎหมายต้องยุติธรรมกับทุกฝ่าย ในกรณีนี้ทำให้ผมรู้สึกไปว่ากฎหมายเอื้อประโยชน์ให้นายทุน คนที่เขาประสบอุบัติเหตุจนเลือดตกยางออก ถึงกับขาแข้งหัก ต้องเข้ารับการผ่าตัด ต้องผ่านอะไรมากมาย สุดท้ายต้องกลายมาเป็นคนพิการสูญเสียความสามารถไป แค่นี้มันก็ย่ำแย่เพียงพอแล้ว อย่าทำบาปทำกรรมโดยการเบียดบังเขาเหล่านั้นอีกเลยครับ

ผมรักษาตัวอยู่เกือบปี ต้องออกจากงานประจำที่ทำอยู่ ต้องส่งค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่ากินอยู่ในครอบครัวสี่ปากท้องพ่อแม่ลูก ใช้เงินค่าสินไหมที่ได้มาจนหมดแถมยังต้องเป็นหนี้กู้เงินมาใช้กว่าผมจะแข็งแรงพอทำงานได้และต้องใช้เวลาหางานอยู่อีกสามเดือนกว่า ลูกคนที่สองสอบไม่ติดในปีนั้นทำให้เสียเวลาเรียนไปหนึ่งปีเพราะไม่มีเงินให้ไปเรียนพิเศษอย่างต่อเนื่อง แถมยังต้องคอยช่วยดูแลพ่อที่ป่วยอยู่ แถมรถที่ถูกชนต้องขายเป็นเศษเหล็กเพราะซ่อมไม่ได้ เสียรถไปอีกคัน ชีวิตมีแต่เสียกับเสียครับ

คนที่ขับรถชนเราเขาก็อยากจะหลุดคดีแบบจ่ายน้อยที่สุด ไม่ได้คิดถึงผลของการกระทำที่สร้างปัญหาให้กับเราอย่างลึกซึ้ง เรื่องการต่อสู้ทางคดีก็ต้องเสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา คนที่มีต้นทุนชีวิตน้อยเมื่อเกิดเหตุอย่างนี้จะเสียเปรียบขึ้นโรงขึ้นศาลต้องใช้เงินทั้งสิน ไหนจะค่าทำเนียมศาล ไหนจะค่าทนายและค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจิปาถะ ยิ่งเจ้าทุกข์รู้น้อยไม่ทันเกมส์ยิ่งเสียเปรียบ หากทุกอย่างมันง่ายพ้นคดีไปก็ยังมีพฤติกรรมประมาทเป็นตัวอันตรายบนท้องถนนอีกเหมือนเดิม

อยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผมเป็นข้อมูล เป็นกรณีศึกษา เป็นกระบอกเสียงหนึ่งเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กฎหมายข้อนี้มีความถูกต้องเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น หยิบยกเอาเรื่อง "ทุพพลภาพถาวร" กับ "ทุพพลภาพชั่วคราว" ขึ้นมาทำให้ บริสุทธุิ์ยุติธรรม โปร่งใส ชัดเจน กว่านี้ครับ 

Tag
 
ประกันภัย
ผู้เสียหาย
ผู้ต้องหา
กระดูกหัก
แขนหัก
แขนขาหัก
ซี่โครงหัก
กรามหัก
ฟันหัก
อวัยวะทำงานได้ไม่เหมือนเดิม
ประเด็นทางสังคม
ความเอาเปรียบของบริษัทประกัน
ประกันเวลาจ่ายโคตรยาก  
เงินชดเชยกรณีพิการ
สิทธิประโยชน์คนพิการ
ความได้เปรียบทางสังคม
ความเสียเปรียบทางสังคม
ทุพพลภาพถาวรหรือชั่วคราวต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างระหว่างทุพพลภาพถาวรหรือชั่วคราว

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า