รอรัฐบาลก็อดตาย


ผมเป็นนักดนตรีอาชีพคนหนึ่งที่ได้รับความเดือดร้อนจาก "สถานการณ์โควิด" ตั้งแต่การระบาดของโรคในรอบแรกจนถึงตอนนี้ปาเข้าไป 2 ปีแล้วที่ไม่ได้ทำงาน เงินเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินสำหรับ 4 ปี หมดไปกับการลงทุนขายของและช่วยเหลือเพื่อนนักดนตรีบางคนย่ำแย่ถึงขนาดไม่มีจะกิน มาถึงตอนนี้ผมก็ตกที่นั่งลำบากเหมือนกันต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่เอาตัวรอดเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวแบบทุลักทุเลพอสมควร
ตั้งแต่รัฐบาลสั่งให้หยุดทำงานเราก็ให้ความร่วมมือด้วยดีตลอดมา ด้วยจิตสำนึกของพลเมืองดี จนมาถึงตอนนี้มันเกินกำลังที่จะต้านทานไหว ด้วยความยาวนานของการสั่งให้หยุดงาน ผมมามองเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนของทางภาครัฐซึ่งทำได้ไม่ดีเลย ไม่ได้หวังพึงพามากมายเกินกว่าสิทธิ์ของประชาชนทั่วไปที่ควรได้รับ มาถึงขั้นนี้การช่วยเหลือพื้นฐานมันควรจะดีกว่านี้ เราทำหน้าที่พลเมืองดีมาถึงตอนนี้ รัฐบาลก็ควรทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่เช่นกัน ส่วนตัวเราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย 

ถ้าให้หยุดงานในระยะเวลาสั้นๆยังพอทนแต่นี่มันยาวนานจนถึงขีดที่บางคนไม่สามารถจะต้านได้อีกต่อไป ตอนนี้ค่าครองชีพยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆในขณะที่คนส่วนหนึ่งไม่มีงานไม่มีรายได้เลย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผมไม่ได้ทำงาน ไม่มีรายได้เข้า แต่ยังต้องส่ง ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากินอยู่ต่างๆสารพัด ผมขอแยกอย่างนี้นะครับ ค่ากินอยู่ต่างๆผมยังพอไหว ค่าน้ำค่าไฟยังพอทนแต่ก็ควรลดราคาลงบ้าง เพราะต่อหน่วยของค่าไฟมีสิ่งที่เราไม่ควรจ่ายในตอนนี้เลยอยู่ในนั้น ค่ารถก็ยังพอไหว แต่ค่าส่งบ้านควรยกเว้นไปก่อนสำหรับคนที่ไม่ได้ทำงาน

ตลอดระยะเวลา 2 ปี ผมต้องส่งค่าบ้านมาตลอด ได้งดชำระแค่ 6 เดือน เงินช่วยเหลือที่ได้มารวมทั้งสิ้น 15000 บาท สำหรับผมนะอยากให้ช่วยเรื่องค่าส่งบ้านจนกว่าจะเปิดให้ทำงาน ความจริงรัฐบาลควรเข้ามารับผิดชอบเพราะท่านสั่งให้เราหยุด ถ้าเป็นระยะเวลาสั้นๆยังพอทนแต่นี่มันปาเข้าไปสองปีแล้วนะครับ ต้องออกมาเป็นนโยบายให้ชัดเจน เพราะผมเคยเข้าไปคุยขอให้ธนาคารผ่อนปรนเรื่องค่าผ่อนชำระแต่ทางธนาคารปฎิเสธอ้างว่าช่วยอะไรเราไม่ได้เพราะไม่มีนโยบายจากรัฐบาลครับ

นักดนตรีพยายามปรับตัวทำมาค้าขายเพื่อหาเงินมาเลี้ยงชีพกันแทบทุกคนล่ะครับ แต่ยิ่งทำเงินเก็บมันยิ่งร่อยหรออย่างเช่นผมเป็นต้น พยายามขายสารพัดจะขาย แต่มันขาดทุนมาตลอดเลยครับ ในสถานการณ์แบบนี้แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าตัวจริงเขายังบ่นกันเลยครับว่าแย่ แล้วเราที่ไม่มีความถนัดกับสิ่งเหล่านี้มาเลยจะไหวเหรอครับ คนเราเกิดมามีความถนัดที่ต่างกัน ผมยกตัวอย่างง่ายๆนะครับ ถ้าเรียนแพทย์มาแล้วให้มาทำงานเป็นวิศวะกรเขาจะทำได้ไหมล่ะครับ ทุกคนเรียนมาศึกษามาเพื่อทำอาชีพนั้น นักดนตรีก็เช่นกันต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นสิบๆปีกว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้ไม่ต่างอะไรกับการเล่าเรียนในสายการเรียนอื่นๆเลย อย่ามองข้ามเรื่องนี้ครับ

ผมเขียนบทความสั้นๆนี้ขึ้นมาเพราะอยากให้สังคมเข้าใจนักดนตรีมากขึ้น เราถูกมองว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวเพราะคำพูดที่ออกมาจากคนในรัฐบาลบางคน ซึ่งมันไม่ได้เป็นไปอย่างนั้นเลย เราถูกสั่งให้หยุดทำงานก่อนทุกครั้งแล้วก็เปิดทีหลัง งวดนี้ยังมองไม่เห็นอนาคต เป็นกลุ่มอาชีพที่ถูกมองข้ามตลอดมา เราได้รับความเดือดร้อนกันสุดๆทั่วหน้า แล้วยังถูกหาว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัวอย่างนี้มันไม่ยุติธรรมนะครับ 

วันเวลาที่ผ่านมาผมผ่านทุกอย่างมาด้วยตัวเองทั้งสิ้น ถ้ารอรัฐบาลช่วยเหลือคงอดตายกันยกครัวไปนานแล้ว อยากฝากถึงเพื่อนๆทุกคนนะครับ เราต้องพยายามให้มากขึ้น ขายของไม่ได้ก็ลองมองงานอื่นไปนะครับ งานทางออนไลน์ยังมีให้เราทำอยู่ลองค้นหากันดู อย่างผมตอนนี้ผมพยายามทำงานเกี่ยวกับ Affiliate ซึ่งมันก็พอหาเงินได้บ้างถ้าเราถนัดเขียน ผมขอฝากไว้ด้วยนะครับ ถ้าจะสั่งสินค้าทางแอป ลาซาด้า ช้อปปี้ โรบินสัน เซ็นทรัลออนไลน์ ท็อปส์ และเจ้าอื่นๆ ฝากกดผ่านลิ้งข้างล่างนี้ด้วย ขอบคุณครับ

Tag

นักดนตรี
นักดนตรีตกงาน
โควิด
โอมิคร่อน
เดือดร้อน
เยียวยา
ทางรอด
อดตาย
ความผิดพลาดของรัฐบาล
โทษประชาชน
อย่าโทษประชาชน
เบื่อรัฐบาล
ขี้ข้านายทุน
ไม่เอารัฐบาล

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า