ทาสผู้ซื่อสัตย์ตัวจริง
สุนัขทำให้ลูกๆของผมเป็นเด็กใจดีมีเมตตา
ทำไมเราจึงไม่ควรนำสุนัขไปปล่อยทิ้ง
2.สุนัขเลี้ยงจะอ่อนแอกว่าสุนัขจรจัดตามธรรมชาติ การดำรงค์ชีวิตอยู่โดยไม่มีคนเลี้ยงดูเป็นไปได้ยากมาก คงไม่อาจเผชิญอยู่กับโลกนอกบ้านที่มีอันตรายอยู่รอบตัวได้ อาจอดตายภายในไม่กี่วันหากถูกนำมาปล่อย เพราะพฤติกรรมของสัตว์จรจัดจะอยู่ในวิถีของการฉกฉวยแย่งชิง ผู้ที่แข็งแรงกว่าถึงจะมีชีวิตรอดอยู่ได้ ถิ่นใครถิ่นมัน แย่งกันกินแย่งกันอยู่ กว่าจะได้กินไม่ง่าย ถ้าตัวที่แข็งแรงกว่ามาตัวที่อ่อนแอจะต้องถอย แม้จะมีคนใจบุญเอามาให้ยื่นกินก็ตาม เวลาผมเอาอาหารไปเลี้ยงหมาตามข้างทางต้องแบ่งให้ตัวละจาน แล้วต้องคอยดูจนกว่าพวกเขาจะกินเสร็จ ไม่อย่างนั้นตัวที่อ่อนแอกว่าจะไม่กล้ากิน ฝนตกฟ้าร้องบางทีต้องตากอยู่กลางฝนเข้าร่มไม่ได้เพราะเจ้าถิ่นจะคอยรุมกัด คนที่เอาสุนัขมาปล่อยอาจเห็นสุนัขตัวอื่นรอดแล้วคิดว่าของตัวเองจะรอดด้วย เอามาปล่อยรวมกับหมาจรจัดเหล่านั้น บอกเลยว่าคุณกำลังคิดผิดอย่างมหันต์
3.คนที่เคยพบเจอสุนัขเหล่านี้เล่าให้ฟังว่าเขาจะไม่ค่อยกินอาหารแม้จะมีคนใจบุญเอามาให้ด้วยความเวทนาสงสาร ดูตามอาการเหมือนคนตรอมอกตรอมใจนั่นล่ะครับ เขาจะชะเง้อคอตั้งใจมองรถที่ผ่านไปผ่านมาเพื่อมองหาเจ้าของมากกว่า ผมแค่คิดน้ำตาก็จะไหลแล้วน่าสงสารครับ
4.ตอนที่เราตัดสินใจเอาสุนัขมาเลี้ยง ไม่ว่าจะไปซื้อหรือขอใครมาก็ตาม นั่นเป็นการตัดโอกาสที่เขาจะได้ไปอยู่กับคนใจดีที่ตั้งใจจะเอาเขาไปเลี้ยง หากวันนี้เราคิดจะทิ้งขว้างเขา เราก็คือคนบาปที่ไปตัดอนาคตดีของเขา
5.เอาสุนัขไปปล่อยเพื่อตัดปัญหาของตัวเอง แต่ไปสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ที่เราเอาสุนัขไปปล่อย เพราะคนใจบุญแถวนั้นเขาสงสารก็จำต้องดูแลกันไป หรือบางที่เอาสุนัขไปปล่อยในวัดก็เท่ากับผลักภาระไปให้พระมันเป็นบาปมหันต์ การมาดูสัตว์ที่เราไม่ต้องการไม่ใช่กิจของพระสงฆ์ เท่ากับเราเอาสุนัขไปใช้ให้พระเลี้ยง ถือว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวมากๆ
ผมเคยไปทำบุญที่วัดเห็นสุนัขพุดเดิ้ลเข้าไปซุกตัวอยู่ในหลืบเล็กๆ หลวงพี่บอกว่ามีคนเอามาปล่อยไว้ เขาจะไม่ออกมาข้างนอกเลยนอกจากตอนที่หลวงพี่เอาข้าวไปให้เพราะโดนหมาใหญ่กัด หลวงพี่ไม่ค่อยมีเวลาจะมาดูแลเขาสักเท่าไหร่เพราะมีภาระกิจต้องทำ ยังมีสุนัขอ่อนแอถูกรังแกอย่างนี้อยู่ในเขตวัดอีกมากมาย คนที่จะนำสุนัขมาปล่อยก็คิดดูให้ดี เขาเป็นเหมือนลูกเหมือนหลานของเรา อย่าใจดำเอาเขามาปล่อยให้ต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้ายอย่างนี้เลยก่อนนำสุนัขมาเลี้ยงควรคิดให้ดีๆก่อน
การที่เราจะนำสุนัขมาเลี้ยงสักตัวมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ให้พึงระลึกไว้เสมอว่านั่นคือชีวิตอีกชีวิตหนึ่งเหมือนกัน อย่าคิดว่าสุนัขเป็นเพียงสิ่งของที่ไม่มีหัวจิตหัวใจอะไร เราไปพรากเขามาจากอกพ่ออกแม่ตั้งแต่เล็กๆเขาต้องกำพร้า เราควรเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ ในชะตากรรมของเขา อย่านำเขามาเลี้ยงเพราะความอยากชั่วครู่ชั่วคราว ตอนเล็กๆเห็นเขาน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยอยากจะเอามาเลี้ยง พอโตไม่น่ารักก็ไม่เอาแล้ว บางคนเห็นคนอื่นเลี้ยงก็อยากจะเลี้ยงเอามาเลี้ยงบ้าง ผลสุดท้ายพอเบื่อก็ทิ้งขว้างอย่างที่ผมกล่าวมา ถ้าเราไม่แน่จริง ไม่รักไม่ชอบจริง ก็อย่าเอาเขามาเลี้ยงให้เป็นบาปกรรมเลยครับ จะได้ไม่เกิดปัญหาอย่างที่ผมได้กล่าวมาสุนัขที่โดนเอามาปล่อยเขากลัว เขาเคว้งคว้างสับสน ในใจคงคิดว่าเขาทำผิดอะไรถึงได้มาลงโทษด้วยการทิ้งขว้างกันแบบนี้ คงอยากมีโอกาสได้กลับไปทำตัวดีเพื่อแก้ตัวใหม่อีกสักครั้ง คนที่เอาเขามาปล่อยคงไม่คิดอะไรมาก แต่หัวอกของผู้ที่ถูกทิ้งมันเจ็บปวดรวดร้าวและทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ยังไม่สายที่เราจะหยุดการกระทำเหล่านั้น หรือถ้าเอาเขาไปปล่อยแล้ว อ่านบทความนี้จบก็รีบออกไปรับเขากลับบ้านเถอะ เขื่อไหมว่า...เพียงเขาได้เจอหน้าคุณ...ก็เหมือนกับเดินออกจากขุมนรกมาขึ้นสวรรค์แล้วล่ะครับ