แนะนำตัวก่อน
ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวก่อนว่าผมเป็นเพราะเราไม่ใช่คนดัง ผมชื่อ "ธีรวัฒน์ ชูเดช" เคยแต่งเพลงให้ วงฟรีเบิร์ดส เช่นเพลง คนที่ถูกทิ้ง ใจละลาย หวง ทำใจ เดวิดอินธี เพลง ตัวสำรองข้างเธอ รักข้ามรุ่น อ้อยกระท้อน เพลง ไม่ยากใช่ไหม สมรักษ์ คำสิงค์ เพลง ไอดินกลิ่นฟาง เพลงคอยรักจากแนวหน้า เสน่ห์มารยา คนขีฮก สมชายใหญ่ เพลง ชายฝั่งคลอง เอาแค่นี้พอเป็นตัวอย่างก่อนนะครับ รวมแล้วเพลงที่ผมเขียนออกมาบันทึกเสียงไปเป็นหลักร้อยเพลงครับ
ผมเข้าเรื่องวิธีการเขียนเพลงเลยนะครับ แต่ต้องขอบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นเทคนิคส่วนตัว การเขียนเพลงไม่มีสูตรตาย ตัวถนัดใครถนัดมัน ขอให้เพลงเพราะ ขายตัวมันเองได้ ถูกใจคนฟัง ฮิตติดหู นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด
หาทำนองเพลง เป็นสิ่งแรกที่เราจะต้องหาก่อนจะยัดเนื้อเพลงใส่ลงไป บางคนฮัมทำนองขึ้นมาพร้อมกับเนื้อเลยก็ไม่ผิด หรือจะฮัมทำนองใส่ไว้ในโทรศัพท์แล้วค่อยมาใส่เนื้อก็ได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เราสะดวกสบายแต่งเพลงได้ง่ายขึ้นเยอะครับ ตอนที่ผมเริ่มแต่งเพลงใหม่ๆยังไร้ซึ่งเทคโนโลยี มีเพียงกีตาร์ตัวเดียวกับดินสอและกระดาษ
หาทำนองเพลง เป็นสิ่งแรกที่เราจะต้องหาก่อนจะยัดเนื้อเพลงใส่ลงไป บางคนฮัมทำนองขึ้นมาพร้อมกับเนื้อเลยก็ไม่ผิด หรือจะฮัมทำนองใส่ไว้ในโทรศัพท์แล้วค่อยมาใส่เนื้อก็ได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้เราสะดวกสบายแต่งเพลงได้ง่ายขึ้นเยอะครับ ตอนที่ผมเริ่มแต่งเพลงใหม่ๆยังไร้ซึ่งเทคโนโลยี มีเพียงกีตาร์ตัวเดียวกับดินสอและกระดาษ
ผมแต่งทำนองออกมาพร้อมกับเนื้อเพลงเลย แต่ในยุคหลังๆพอเข้าสู่วงการก็จะได้ทำนองมาก่อนให้เรามาใส่เนื้อ ผมจะชอบวิธีนี้มากกว่า ไม่ต้องมานั่งนึกทำนองให้ปวดหัว มันทำให้เขียนเนื้อง่ายขึ้นมากครับ ที่สำคัญเพลงที่แต่งออกมาทำนองมันจะไม่ซ้ำซากวนเวียนอยู่ในแบบเดิมๆ สังเกตได้จากเพลงต่างประเทศที่มีทำนองใหม่ๆมาให้ฟังไม่ซ้ำซาก เมื่อทำนองมันเพราะถ้าใส่เนื้อให้ดีๆ จะมีความลงตัวสมบูรณ์แบบมากๆ เพลงจะติดหูคนได้อย่างรวดเร็ว เพลงไทยส่วนใหญ่จะใช้วิธีแต่งทำนองมาพร้อมเนื้อเป็นส่วนใหญ่ สังเกตได้จากเพลงที่ทำนองใกล้ๆกันแต่คนละเนื้อร้อง
ต้องมีความชัดเจน การแต่งเพลงต้องมีความชัดเจนว่าเราจะพูดเรื่องอะไร คนฟังจะได้ไม่งงรู้ว่าเรากำลังพูดอะไรอยู่ เอาแบบชัดๆ เช่น จีบ ขอโทษ ขอร้อง รักแท้ ให้กำลังใจ ตัดพ้อ เสียใจ ฯลฯ เผื่อว่าคนฟังเพลงของเราอยากร้องเพลงหรือส่งเพลงของเราไปบอกรักใคร ขอโทษใคร หรือด่าใครได้ตรงประเด็น การบรรยายต้องไปในทิศทางเดียวกัน
ดังนั้นเราจึงต้องวางโครงเรื่องก่อน เช่นถ้าเราจะพูดเรื่องตัดพ้อ เราอาจเริ่มด้วยสาเหตุของการตัดพ้อว่าเขาทำให้เราเสียใจ ท่อนต่อมาเราอาจจะพูดถึงความดีและความจริงใจที่เราให้เขาไปมันเสียเปล่า ท่อนฮุกเราอยากจะตัดพ้ออะไรก็ใส่แบบเต็มสุดๆเลยครับ ท่อนสุดท้าย(สรุป) เราอาจจะพูดเรื่องความล้มเหลว ความย่ำแย่ในชีวิต ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการกระทำของเขาที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้ ภาพรวมต้องบรรยายให้เป็นเรื่องของการตัดพ้อไม่หลุดเป้า ขั้นตอนนี้ผมว่ามันมีความสำคัญมากในการแต่งเนื้อ ต้องตีกรอบในการพูดว่าจะดำเนินเรื่องไปยังไง
แต่งเพลงให้เข้ากับบุคลิกของนักร้อง เราต้องดูก่อนว่านักร้องเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยไหน บุคคลิกเป็นยังไง เรียบร้อย จิ๊กโก๋ ห้าวๆ แต่งเพลงออกมาจะได้ตรงกับบุคลิกของเขา เวลาร้องจะได้มีพลังดูน่าเชื่อถือ คนเรียบร้อยจะมีภาษาพูดที่นุ่มนวลขี้อายเกรงใจ คนห้าวๆจะมีภาษาพูดออกแรงๆแข็งๆไม่เกรงใจ จิ๊กโก๋จะมีภาษาพูดที่ตรงไปตรงมาแข็งกระด้างเอาใจไม่เป็น เราต้องเป็นคนช่างสังเกตเก็บรายละเอียดให้เก่ง
ที่ผมยกตัวอย่างมาเป็นส่วนหนึ่งพอให้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นแต่งเพลง ลองเอาไปปรับใช้ดู ทำไปบ่อยๆเราจะแตกฉาน มีความชำนาญ เราจะค่อยๆเห็นภาพ ค่อยๆเข้าใจไปเอง
สมัยก่อนเวลาที่ผมจะแต่งเพลงให้นักร้องใหม่ๆตามค่าย ต้องมาทำความรู้จักดูตัวตนของเขาไปสักระยะหนึ่งก่อนแต่งเพลง เพื่อให้เพลงออกมาลงตัวเข้ากับนักร้องให้มากที่สุด พอดังแล้วจะแต่งเพลงให้ง่ายเพราะมีตัวตนที่ชัดเจนแล้ว แต่งเพลงร้องเองจะง่ายที่สุด เพราะเราเข้าใจตัวตนของตัวเองโดยธรรมชาติ อย่างเช่น เสกโลโซ แอ๊ดคาราบาว ป้างณครินทร์ ที่แต่งเพลงร้องเอง
แถมให้อีกนิด
คนร้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย การแต่งเพลงที่ร้องได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายถือว่าได้เปรียบใครจะเอาไปร้องก็ได้ แต่มันอาจจะเป็นมุมมองแบบกว้างๆ ถ้าเจอะจงเป็นแบบผู้หญิงผู้ชายชัดเจนไปเลยก็กินใจดี แต่มันก็ไม่เหมาะกับเพศตรงข้ามร้อง เช่น เพลงผู้หญิงลืมยาก เพลงคนมีเสน่ห์ เป็นต้น
ใครเป็นผู้พูด พูดถึงใคร การกระทำของใคร ฉัน เธอ เรา เขา แม้จะเป็นเรื่องที่ดูเหมือนง่ายแต่ก็ต้องระวังในการใช้ให้ดีนะครับ พอเพลงมีการกล่าวถึงบุคคลที่สาม เราจะเริ่มบรรยายยากขึ้น เพราะเพลงอกหักส่วนมากจะพูดถึงคนสามคน จะต้องมี ฉัน เธอ เรา เขา เป็นส่วนมาก เพลงที่ยกตัวอย่างนี้ เช่นเพลง "เราสามคน" ของคุณ "อิทธิ พลางกุล"เป็นต้น
คำทอง คำติดปาก ของเพลง เมื่อเราแต่งเพลงเสร็จแล้ว การเกราเพลงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอีกย่างหนึ่งว่าเราขาดตกบกพร่องอะไรบ้าง แล้วลองหาคำทองมาใส่ในเพลง ผมยกตัวอย่างเพลงตัวสำรองข้างเธอ ของ เดวิด อินธี ที่ผมเป็นคนแต่ง มีอยู่ท่อนหนึ่งตอนแรกเขียนว่า "เขาว่าสมกันที่ถูกกลั่นกรอง" ตอนหลังมาเปลี่ยนเป็น "เขาว่าสมกันใบหยกกิ่งทอง" ซึ่งดูลงตัว สระสรวย ชัดเจน และติดปากกว่า มีหลายเพลงที่ดังเพราะคำทองของเพลงเช่น เพลง เสียมั้ย ใจสั่งมา สามสิบยังแจ๋ว เรียกพี่ได้ไหม เป็นต้น
สร้างคำใหม่ๆ เพลงที่สร้างคำใหม่ๆติดปากขึ้นมาส่วนใหญ่จะดังได้ง่ายกว่า แต่ต้องเก่งในการบรรยายคำนั้นให้คนเข้าใจในเพลงให้ได้ เช่นเพลง ส้มหล่น อาปานาเฮ่ รักจริงให้ติงนัง เป็นต้น
เพลงที่แต่งมาสำหรับใครโดยเฉพาะ เพลงที่แต่งมาสำหรับ ทอม ดี้ กระเทย หทาร ตำรวจ พ่อค้าแม่ขาย แบบเจาะจงไปเลยก็จะเป็นเพลงดังได้ง่ายเหมือนกัน เพราะจะเป็นเพลงที่เข้าถึงอารมณ์บุคคลเหล่านั้น เมื่อบุคคลเหล่านั้นฟังหรือขอเพลงตามช่องต่างๆบ่อยๆ คนทั่วๆไปก็จะได้ยินได้ฟังไปด้วย ทำให้เพลงดังได้ง่ายเพราะแรงสนับสนุนครับ
ชื่อเพลงนั้นสำคัญไฉน เราอย่ามองข้ามเรื่องนี้เป็นอันขาด เพลงจะดูมีค่า ชัดเจนมันอยู่ตรงส่วนนี้ด้วยครับ คิดชื่อเพลงให้โดนๆเข้าไว้ เพลงหลายเพลงดังขึ้นมาได้เพราะชื่อเพลง อย่างเช่นเพลง ใจหมา คู่กัด เป็นต้น
ฟังเพลงที่แต่งออกมาก่อน ลองฟังเพลงด้วยตัวของเราเองก่อน ว่าชอบเพลงที่แต่งออกมาหรือไม่ ขัดหูไหม ตัวเราเป็นด่านแรกในการกลั่นกรอง ถ้าตัวเองแต่งออกมาแล้วยังไม่ชอบแล้วใครจะมาชอบเพลงของเรา ถ้าเราชอบถือว่าดีระดับหนึ่ง ถ้าผ่านขั้นตอนนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็ลองไปให้คนรอบตัวที่สนิทฟังว่าเขารู้สึกยังไง แต่ต้องไม่เฉลยก่อนว่าเราเป็นคนแต่ง เพราะเขาอาจไม่พูดความจริงเพราะความเกรงใจเรา
ฟังเพลงบ่อยๆ หากเราจะเป็นนักแต่งเพลงต้องฟังเพลงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อศึกษาหาข้อมูล จะได้มาวิเคราห์ว่าในแต่ละช่วงเวลา เพลงต่างเหล่านั้นเป็นเพลงฮิตได้อย่างไร เพื่อมาปรับปรุงงานของเรา ที่สำคัญจะได้รู้ว่าช่วงนี้คนชอบเนื้อเพลงประมาณไหน แต่อย่าไปทำตามเขานะครับ มันไม่เวิร์คแน่ เหมือนหนังที่ดูแล้ว หากเราเอามาฉายซ้ำยังไงก็ไม่ดัง คนต้องการความแปลกใหม่ครับ
อันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง เป็น "เทคนิคเบื้องต้นในการแต่งเพลง" มันยังมีอะไรอีกมากมายที่ทำให้เราแต่งเพลงได้ดี ประสบการณ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ยิ่งฝึก ยิ่งทำ ยิ่งรู้ ยิ่งเห็น ยิ่งเก่ง ยิ่งแตกฉาน ลองเอาวิธีการที่ผมใช้ส่วนตัวนี้ไปลองทำดู ฝึกบ่อยทำบ่อยๆจะยิ่งเหลาสมองของเราให้แหลมคม ผมจะนำเทคนิคที่ใช้ในการแต่งเพลงมาบอกเล่ากันอีกในตอนต่อไป ฝากกดติดตามไว้ด้วยนะครับ
การจะเป็นนักแต่งเพลงที่ประสบผลสำเร็จ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือหัวใจของเรา ต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง คำว่านักเขียนไส้แห้งยังใช้ได้ดีกับอาชีพนี้นะครับ เพราะตลอดระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน รายได้งานเขียนเพลงไม่ได้ทำให้ผมลืมตาอ้าปากได้ มีเพียงความสุขและความภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งที่เรารัก
ต้องไม่ท้อถอยและถอดใจง่ายๆ กว่าผลงานที่ผมเขียนจะได้เข้าห้องบันทึกเสียงเป็นเพลงแรก ใช้เวลาในการฝึกฝนเขียนเพลงมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เล่นดนตรีเขียนเพลงมาเรื่อยๆ ใช้เวลาลองผิดลองถูกมาประมาณ 20 กว่าปีครับ มันอาจจะดูยาวนาน แต่อย่างที่ผมบอก ถ้าเราทำมันไปด้วยใจรัก จะทำได้เรื่อยไม่รู้สึกอะไร
ต้องมีศีลธรรมประจำใจ เพลงเป็นสิ่งที่คนในวงกว้างฟังและสามารถโน้มน้าวจิตใจได้ ดังนั้นการแต่งเพลงที่ทำให้เกิดแง่ลบ หรือผลที่ได้ออกมาเป็นผลเสียของสังคมเราต้องไม่แต่งมันออกมาเด็ดขาด แม้จะได้เงินทองหรือผลประโยชน์มากมายก่ายกองเพียงใด
ต้องมีน้ำใจต่อสังคม หากมีใครขอให้เราแต่งเพลงที่เป็นประโยชน์และจรรโลงสังคม หรือเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม หากเราพอทำได้ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยแม้จะไม่ได้สิ่งตอบแทนกลับมาก็ตาม
ต้องมีสักวันที่ที่เป็นวันของเรา ผมไม่เคยคิดว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้ ตอนนี้บางทียังปฏิเสธงานบางชิ้นไป ซึ่งตอนเริ่มหัดแต่งเพลงใหม่ๆยังคิดว่าจะมีคนมาร้องเพลงที่เราแต่งออกมาเหรอ จึงเอาประสบการณ์ที่พอมีมาขอเป็นกำลังใจและยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ถ้ามีความมุ่งมั่นครับ
ต้องไม่ท้อถอยและถอดใจง่ายๆ กว่าผลงานที่ผมเขียนจะได้เข้าห้องบันทึกเสียงเป็นเพลงแรก ใช้เวลาในการฝึกฝนเขียนเพลงมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน เล่นดนตรีเขียนเพลงมาเรื่อยๆ ใช้เวลาลองผิดลองถูกมาประมาณ 20 กว่าปีครับ มันอาจจะดูยาวนาน แต่อย่างที่ผมบอก ถ้าเราทำมันไปด้วยใจรัก จะทำได้เรื่อยไม่รู้สึกอะไร
ต้องมีศีลธรรมประจำใจ เพลงเป็นสิ่งที่คนในวงกว้างฟังและสามารถโน้มน้าวจิตใจได้ ดังนั้นการแต่งเพลงที่ทำให้เกิดแง่ลบ หรือผลที่ได้ออกมาเป็นผลเสียของสังคมเราต้องไม่แต่งมันออกมาเด็ดขาด แม้จะได้เงินทองหรือผลประโยชน์มากมายก่ายกองเพียงใด
ต้องมีน้ำใจต่อสังคม หากมีใครขอให้เราแต่งเพลงที่เป็นประโยชน์และจรรโลงสังคม หรือเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม หากเราพอทำได้ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยแม้จะไม่ได้สิ่งตอบแทนกลับมาก็ตาม
ต้องมีสักวันที่ที่เป็นวันของเรา ผมไม่เคยคิดว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้ ตอนนี้บางทียังปฏิเสธงานบางชิ้นไป ซึ่งตอนเริ่มหัดแต่งเพลงใหม่ๆยังคิดว่าจะมีคนมาร้องเพลงที่เราแต่งออกมาเหรอ จึงเอาประสบการณ์ที่พอมีมาขอเป็นกำลังใจและยืนยันว่าไม่มีสิ่งใดที่เราทำไม่ได้ถ้ามีความมุ่งมั่นครับ
Tag
เทคนิค เคล็ดลับ วิธี เป็น นักเขียน นักแต่ง แต่ง เขียน เนื้อ เพลง ให้ดี ให้เพราะ ให้ดัง ให้โดน ให้โดนใจ ให้ติดตลาด ให้เข้าถึงใจคนฟัง ให้ตรงใจคนฟัง ให้ได้อารมณ์ ให้ได้ความรู้สึก ให้คนอินตาม ให้ถูกใจ ให้ดึงใจ เริ่มต้นแต่งเพลงยังไง เขียนเพลงยังไง เทคนิคการแต่งเพลงอย่างง่ายๆ เพลงรัก เพลงสนุก เพลงเศร้า เพลงสตริง เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง เพลงหมอลำ เพลงสถาบัน เพลงองค์กร โดย นักแต่งเพลงอาชีพ สอน เอง จาก ค่ายเพลง